“แฮมป์ตันส์” (Hamptons) เมืองตากอากาศที่หรูหราของบรรดามหาเศรษฐีชาวอเมริกา ที่ตั้งอยู่ทอดยาวไปตามชายฝั่งของลองไอส์แลนด์ ห่างจากมหานครนิวยอร์กโดยการขับรถเพียงสองชั่วโมง ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ทำเลพิเศษแห่งนี้เต็มไปด้วยคฤหาสน์มูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ซึ่งกลายเป็นทางเลือกของการลงทุนในหมู่ชนชั้นสูง ผู้บริหารระดับสูง และคนร่ำรวยที่แสวงหาเวลาส่วนตัวกับครอบครัวโดยปราศจากความวุ่นวาย
ในขณะที่ “เมืองหัวหิน” เป็นเมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ห่างจากถนนที่พลุกพล่านในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ เพียง 2.5 ชั่วโมง (โดยรถยนต์) ได้รับความนิยมตั้งแต่ยุคสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ที่ทรงโปรดปรานเมืองนี้อย่างมาก โดยในปี 1920 ได้ทรงสร้างพระราชวังไกลกังวลเป็นที่ประทับช่วงฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ จวบคนวันนี้ “หัวหิน” ได้พัฒนาอย่างรุดหน้า เป็นเมืองที่ดึงดูดนักเดินทางให้หลั่งไหลเข้ามา และเป็นเมืองที่สร้างแรงบันดาลใจมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
“หัวหิน” มีลักษณะหลายอย่างที่คล้ายกับ “แฮมป์ตันส” โดยทั้งสองเมืองนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหานครระดับโลก (นิวยอร์กและ กรุงเทพฯ) เข้าถึงได้ด้วยเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ มีชายหาดที่สวยงาม สนามกอล์ฟ ไร่องุ่น สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และอาหารเลิศรส รายล้อมด้วยหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่แปลกตา และพื้นที่เกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์
ปัจจุบัน “แฮมป์ตันส์” เป็นที่ตั้งของที่อยู่อาศัยที่แพงที่สุดในอเมริกาถึง 3 แห่ง โดยมีราคาบ้านเฉลี่ยสูงกว่า 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้าน “หัวหิน” ก็กำลังทะยานขึ้นสู่เมืองที่มีความเติบโตด้านอสังหาริมทรัพย์สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย โดยมีนักลงทุนที่ร่ำรวยจำนวนมากมองหาบ้านหลังที่สองนอกเมือง หรือบ้านพักตากอากาศ เพื่อวิถีชีวิตที่กระฉับเฉง และสุขภาพที่แข็งแรง ส่งผลให้ยอดขายที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ในหัวหินเริ่มสูงขึ้น
ไร่องุ่นมอนซูน แวลลีย์ (Monsoon Valley Vineyard) ตั้งอยู่ในสถานที่งดงามบนเนินเขาสูงบริเวณชานเมืองหัวหิน
มีอายุยาวนานกว่า 20 ปี มีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์ที่โดดเด่นมากมาย
บันยัน หัวหิน (Banyan Hua Hin) อาณาจักรที่อยู่อาศัยและแอคทีฟไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในหัวหิน มีวิลล่าราคาตั้งแต่ 20 ล้านบาท (600,000 เหรียญสหรัฐ) ไปจนถึง 100 ล้านบาท (3 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาและทะเลติด ใกล้กับ “บันยัน กอล์ฟคลับ หัวหิน” (Banyan Golf Club Hua Hin) สนามกอล์ฟ 18 หลุมที่มีชื่อเสียงระดับโลก และได้รับรางวัล “The Rolex World’s Top 1000 Golf Courses” ซึ่งปัจจุบันมียอดขายเรสซิเดนซ์สุดหรูเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มูลค่ากระโดดสูงถึง 125 ล้านบาทในปี 2564 ซึ่งเป็นผลพวงจากไลฟ์สไตล์ผู้คนที่เปลี่ยนไป และการพัฒนาที่ก้าวหน้าของหัวหิน
นายเชิ้ท คว้อนท์ (Tjeert Kwant) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บันยัน ไทยแลนด์ กรุ๊ป กล่าวว่า “หัวหินและแฮป์ตันส์มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความงามตามธรรมชาติ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน และภูมิศาสตร์ที่น่าสนใจ และนี่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่หัวหินมีอยู่ในปัจจุบัน จุดหมายปลายทางในฝันนี้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักลงทุนชาวไทยและต่างชาติทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างแน่นอน”
ไม่น่าแปลกที่ชาวไทยและชาวต่างชาติที่ร่ำรวย ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในหัวหินที่เพิ่มขึ้น โดยกลุ่มผู้ซื้อมากกว่า 1 ใน 4ส่วนใหญ่เป็นชาวกรุงเทพฯ ที่ต้องการเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ และต้องการมี “บ้านตากอากาศ” หรือ “บ้านหลังที่สอง” เพื่อหลีกหนีจากเมืองและการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ลักษณะเด่นประการหนึ่งของผู้ซื้อชาวไทยที่เปลี่ยนไป คือความต้องการอยู่อาศัยในเมืองรีสอร์ตที่เต็มไปด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี และมีพื้นที่กลางแจ้ง เพื่อสามารถเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพแข็งแรง และกระฉับกระเฉงมากขึ้น นอกจากนั้น การพัฒนาอย่างรวดเร็วของหัวหิน อาทิ โรงเรียนนานาชาติ ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ และโครงสร้างพื้นฐาน เหล่านี้ยังมีส่วนทำให้อุปสงค์ต่อที่อยู่อาศัยในหัวหินเพิ่มขึ้นอีกด้วย
“หัวหิน” ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์มากมายและจุดหมายปลายทางที่เป็นมรดกตกทอด ได้แก่ บ้านแมคฟาร์แลนด์ (McFarland House) ศาลาไทย 2 ชั้นสุดคลาสสิก ตั้งอยู่ภายในโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน (Hyatt Regency Hua Hin) ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 เป็นของ ดร.จอร์จ แบรดลีย์ แมคฟาร์แลนด์ (Dr. George Bradley McFarland) ผู้ซึ่งเคยตีพิมพ์พจนานุกรมภาษาไทย-อังกฤษในปี 2482 และ “ลักษสุภา หัวหิน” ที่พักผ่อนริมชายหาดที่สวยงามซึ่งได้รับการดัดแปลงจากบ้านของครอบครัวเดิมของเจ้าของและล้อมรอบด้วยสวนสวยเขียวชอุ่ม
ไร่องุ่นมอนซูน แวลลีย์ (Monsoon Valley Vineyard) ตั้งอยู่ในสถานที่งดงามบนเนินเขาสูงบริเวณชานเมืองหัวหิน มีอายุยาวนานกว่า 20 ปี มีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์ที่โดดเด่นมากมาย อาทิ Shiraz, White Shiraz, และ Rosé ที่ได้รับรางวัลจาก James Suckling นักวิจารณ์ไวน์ชั้นนำของโลก ขณะที่ในตลาดอาหารทะเลของเขาตะเกียบ “หมู่บ้านชาวประมง” ของหัวหิน สะท้อนให้เห็นถึงร้านอาหารสุดหรูในราคาที่ไม่แพง
ผู้แสวงหาวัฒนธรรมสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สร้างสรรค์ผ่านศิลปินท้องถิ่นและตลาดหัตถกรรม รวมถึงโรงเรียนนานาชาติ ศูนย์การแพทย์ และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพ เช่น ชีวาศรม (Chiva-Som) รีสอร์ตเพื่อสุขภาพที่มีชื่อเสียงระดับโลก และสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ รวมกัน สร้างจุดหมายปลายทางแบบ 360 องศาสำหรับคู่รัก ครอบครัว และผู้เกษียณอายุ
ด้วยการพัฒนาอย่างรวดเร็วของหัวหิน อาทิ โรงเรียนนานาชาติ ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ และโครงสร้างพื้นฐาน เหล่านี้ยังมีส่วนทำให้อุปสงค์ต่อที่อยู่อาศัยในหัวหินเพิ่มขึ้นอีกด้วย และนำเข้าสู่บทใหม่ของการลงทุน “The Hamptons of Thailand” ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งใน โอกาสการลงทุนที่น่าสนใจที่สุดในเอเชีย บทใหม่ของ “หัวหิน” สู่ “แฮมป์ตันส์เมืองไทย”
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “บันยัน หัวหิน” ได้ที่ www.banyanthailand.com หรือโทร 032 538 888
Leave a Reply