วันนี้เรามาดูข้อแตกต่างของที่พักแต่ละประเภทกันดีกว่า เชื่อว่าหลายคนยังรู้จักเพียงแค่ Hotel และ Hostel แต่ใครจะรู้ล่ะว่ายังมีบริการที่พักอีกประเภทที่ต่างกันไป นั่นก็คือ Poshtel เราจึงจะมาดูกันว่าบริการที่พักแต่ละประเภทนั้นจะมีข้อแตกต่างกันตรงไหนบ้าง มีข้อดีต่างกันอย่างไร เพราะในช่วงที่ผ่านมา การบริการ Hostel และ Poshtel ก็บูมไม่ใช่น้อยเลยนะคะ เพราะเป็นที่นิยมมากในหมู่ Backpacker แต่คนส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดเหมารวมว่าเป็น Hostel ซะส่วนใหญ่ ดังนั้นเราไปทำความรู้จัก Hostel และ Poshtel กันก่อนดีกว่าค่ะว่าเป็นอย่างไร ส่วน Hotel หลายคนก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นโรงแรมใหญ่ๆที่ให้บริการที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า ซึ่งต่างจากที่พักทั้งสองอย่างที่จะพูดถึง
Hostel (โฮสเทล)
โฮสเทล เป็นที่พักประเภทหนึ่ง ที่เป็นที่นิยมมากเพราะราคาถูก สะดวก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเบื้องต้นใกล้เคียงกับโรงแรมแถมหากเป็นในจังหวัดท่องเที่ยวนี่จะหาง่ายเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะหาโฮสเทลที่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวหรือที่ที่จะไปธุระคนเดียว แต่ก็มีบ้างที่เข้าพักแบบเป็นกลุ่มหลายคน แต่การพักแบบนี้จำเป็นต้องลดระดับเสียงสักนิดเพราะเป็นที่พักรวม ดีหน่อยก็มีแบบเหมาห้อง เน้นให้บริการแบบ self-service บางแห่งจะแยกห้องพักสำหรับผู้หญิงไว้คนละส่วน เพื่อความปลอดภัยและสบายใจระหว่างเข้าพัก หากใครนึกภาพไม่ออก มันจะเป็นเตียงสองชั้น หลายๆเตียง ทางเดินแคบๆ มีตู้ล็อกเกอร์ไว้ให้ใส่สัมภาระส่วนตัว ซึ่งมีจำนวนเท่ากับเตียงนอน และส่วนใหญ่เป็นห้องน้ำรวม แต่บางทีก็ดีหน่อยมีแยกชายหญิงให้
ข้อดี
1.ได้เพื่อนใหม่ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ต่างถิ่น ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม แถมยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางกันด้วย
2.ได้มุมมองชีวิตใหม่ๆ ได้รสชาติชีวิตไปอีกแบบ
3.ราคาถูก ส่วนใหญ่ราคาที่พักจะไม่แพงมากมีตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไป แต่ไม่เกินหลักพันต่อคนแน่นอน แถมบางทีมีฟรีอาหารเช้าด้วยนะ
Poshtel (พอชเทล)
พอชเทลเป็นที่พักที่มีระดับที่เหนือกว่าโฮสเทลแต่ก็ไม่ถึงกับโรงแรม โดยราคาที่พักจะแพงกว่าโฮสเทล เป็นการผสมผสานระหว่างคำว่า Posh แปลว่าเก๋ไก๋ หรูหรา กับคำว่า Hostel ดังนั้น Poshtel ก็คือ โฮสเทลเวอร์ชันหรูหราที่มีความเก๋ไก๋ สะดวกสบายในการพักผ่อน มีสิ่งอำนวยความสะดวกและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักมากขึ้น แต่ยังคงรูปแบบการสร้างปฏิสัมพันธ์ของนักเดินทาง คือมีพื้นที่ส่วนกลางให้กับผู้พักได้ใช้ร่วมกันเหมือน Hostel แต่มีระดับกว่า เช่น จัดสรรพื้นที่ให้บริการอย่างเป็นสัดส่วนเหมือนกับโรงแรม เช่น ห้องอาหาร, ห้องสมุด, คาเฟ่, ห้องนั่งเล่น, มุม wifi, บาร์, เกม, สระว่ายน้ำหรืออื่นๆ ผู้พักจึงสามารถพบปะ หรือทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นได้โดยไม่รู้สึกซ้ำซาก จำเจ มีกิจกรรมในที่พักมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าโฮสเทล เพราะพอชเทลมีห้องพักแบบส่วนตัวเพิ่มให้ด้วย
ข้อดี
1.ได้ความสะดวกสบายที่มากกว่า
2.มีส่วนที่เป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น
3.การตกแต่งสวยงามหรูหรากว่า
4.มีโซนอื่นๆและกิจกรรมให้เล่นเพิ่มขึ้นมา
5.ได้เพื่อนใหม่ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ต่างถิ่น ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรมเช่นเดียวกับโฮสเทล
จะเห็นได้ว่าระหว่างโฮสเทลและพอชเทลจะไม่มีความแตกต่างกันสักเท่าไหร่ จะมีข้อดีที่เหมือนกันคือราคาอาจจะถูกกว่าโรงแรมใหญ่ๆทั่วไป และได้เพื่อนใหม่ๆ ไม่เหงาเหมือนกัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความแตกต่างกันเลย คือสิ่งอำนวยความสะดวกและความหรูหรา ดังนั้นการเลือกที่พักก็ควรเลือกที่ตรงกับความต้องการไลฟ์สไตล์ตัวเองและงบในกระเป๋าสตางค์จะดีที่สุด ส่วนเรื่องการอำนวยความสะดวกอาจไม่เทียบเท่าโรงแรมแต่ก็ถือว่าใช้ได้นะ มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับพักผ่อนก็ใช้ร่วมกันกับผู้อื่น เช่นห้องดูทีวี, ห้องอ่านหนังสือ, มุมอินเทอร์เน็ต และห้องครัวบางที่ก็มีให้ด้วย
ที่มา : บ้านและสวน
Leave a Reply