ปัจจุบันการท่องเที่ยวนั้นซบเซาลงไปมากหลังจากเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แม้ว่าช่วงนี้การระบาดในประเทศเราได้มีการเบาลงแล้ว แต่การท่องเที่ยวก็ยังไม่กลับมาบูมเหมือนแต่ก่อน รวมไปทั่วทั้งโลกที่ประสบปัญหาเดียวกัน ทำให้แนวคิด Travel Bubble จากนักท่องเที่ยวคนไทยขึ้น
Travel Bubble คือ การเปิดประเทศด้วยการ ท่องเที่ยวแบบจับคู่เดินทางระหว่าง 2 ประเทศ ที่ควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความมั่นใจว่ามีความปลอดภัยจากเชื้อไวรัส Covid-19 ทั้งยังต้องมีการพิจารณาจากมาตรการผ่อนคลายการควบคุมโรค มาตรการการเดินทางระหว่างประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย
ปัจจุบันมีตัวอย่างจาก ออสเตรเลีย ที่ได้มีการทำข้อตกลง ผ่านการจับคู่เดินทางกับประเทศนิวซีแลนด์ ที่จะเริ่มเปิดพรมแดนระหว่างกันช่วงเดือน ส.ค. นี้ ซึ่งประชากรระหว่าง 2 ประเทศ สามารถเดินทางไปมา ได้แบบไม่ต้องกักตัว 14 วัน และ มีเงื่อนไขเกี่ยวกับข้อตกลง
โดยเงื่อนไขของการท่องเที่ยวแบบ Travel Bubble คือ ต้องตรวจเชื้อก่อนเดินทางออกมา ต้องมีใบรับรองตรวจโรคโควิด-19 ซึ่งต้องมีผลเป็นลบ นำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่สนามบิน และตรวจอีกครั้งเมื่อเดินทางกลับ
ในส่วนของไทยนั้นมาตรการ Travel Bubble ที่วางแผนไว้ เป้าหมายในระยะแรก ที่จะจับมือด้านการท่องเที่ยวกับประเทศต่างๆ จะเป็นจีน รวมฮ่องกง และมาเก๊า มีการหารือกับภาครัฐระดับเมืองของจีน และสำนักงานพาณิชย์ของฮ่องกง แสดงความประสงค์ที่จะหารือกับฝ่ายไทยต่อ เพื่อให้เกิด Travel Bubble ระหว่างกัน, เวียดนาม มีการหารือแล้วกับ Vietnam National Administration of Tourism (VNAT) ซึ่งแสดงความสนใจที่จะหารือกับฝ่ายไทยต่อ และประเทศอื่นๆ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ลาว เมียนมา กัมพูชา และตะวันออกกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างหารือ โดยสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศ
แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องระวังตัวกันด้วยนะคะ ป้องกันตัวเองเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อและการแพร่ระบาดระลอก 2 ทั้งนี้อาจมีการเริ่มพร้อมกันหลายประเทศในลักษณะเป็น Group Bubble ก็ได้ โดยระยะแรกจะเปิดรับกลุ่มนักธุรกิจ และกลุ่มที่ต้องการเข้ามารักษาพยาบาลในไทย ซึ่งเมื่อดำเนินการไปสักระยะหนึ่ง แล้วสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี ก็จะพิจารณาให้นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆเข้ามาตามลำดับ
ที่มา :accesstrade.in.th , trueid.net
Leave a Reply