“วัน ออริจิ้น” มั่นใจสัญญาณบวกเปิดประเทศหนุนการท่องเที่ยวไทยปี 2565 โต หลังยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยสะสมทะลุล้านแล้วในเดือน พ.ค. ครึ่งปีหลังลุ้นต่างชาติเพิ่มอีก 4 ล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวม-การจับจ่ายใช้สอย-การท่องเที่ยวภายในประเทศ เดินหน้าส่ง “แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์” ตัวแทนธุรกิจบริหารโรงแรมและที่อยู่อาศัย ร่วมกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยวไทยในหัวเมืองใหญ่ จับมือสายการบินระดับประเทศ “ไทยสมายล์” เข้าร่วมโครงการ We Privilege มอบเอกสิทธิ์พิเศษแด่สมาชิกที่เข้าพักในบัดเจ็ตโฮเทลแบรนด์ดัง “ไอบิส” ใน 3 ทำเลท่องเที่ยวชั้นนำ ภูเก็ต-หัวหิน-กระบี่
นายปิติพงษ์ ไตรนุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า จากสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-18 พ.ค.2565 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้วมากกว่า 1.01 ล้านราย ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการยกเลิกมาตรการ Test & Go และยังมีแนวโน้มจะผ่อนคลายมาตรการอื่นๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ไทยน่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มเติมอีกราว 4 ล้านคนตามเป้าหมายที่ภาครัฐวางไว้ ขณะเดียวกัน ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว จะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ การจับจ่ายใช้สอย และส่งผลให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นด้วย
“การผ่อนคลายมาตรการ Test & Go และการยกเลิก Thailand Pass ตลอดจนความร่วมมือร่วมใจของภาคเอกชน จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยกระตุ้นธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะในทำเลท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศ วัน ออริจิ้น ในฐานะองค์กรที่มีโรงแรมตั้งอยู่ในหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่าง ภูเก็ต หัวหิน และกระบี่ ภายใต้แบรนด์ไอบิส (ibis) รวม 664 ห้องพัก จึงเตรียมพร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวใน 3 พื้นที่ดังกล่าว ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ล่าสุด ได้มอบหมายให้บริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ HHR ที่ปรึกษาด้านการขายและการตลาดเป็นผู้เดินหน้าสร้างความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง” นายปิติพงษ์ กล่าว
ด้าน นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HHR) ในเครือ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้จับมือกับสายการบินไทยสมายล์ หนึ่งในสายการบินชั้นนำที่มีเที่ยวบินรองรับทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ We Privilege มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เป็นสมาชิกไทยสมายล์ ในการเข้าพักในโรงแรมภายใต้แบรนด์ไอบิส (ibis) ทั้ง 3 แห่งประกอบด้วย 1.โรงแรมไอบิส ภูเก็ต กะตะ (ibis Phuket Kata Hotel) โรงแรมขนาด 5 ชั้น จำนวนห้องพัก 258 ห้อง 2.โรงแรมไอบิส หัวหิน (ibis Hua Hin) โรงแรมสูง 6 ชั้น จำนวนห้องพัก 200 ห้อง และ 3.โรงแรมไอบิส สไตล์ กระบี่ อ่าวนาง (ibis Styles Krabi Ao Nang) สูง 5 ชั้น จำนวนห้องพัก 206
สำหรับสิทธิสิทธิพิเศษที่ลูกค้าไทยสมายล์จะได้รับคือ Early Check-in เวลา 12.00 น. และ Late Check-out เวลา 16.00 น. เพียงแค่แสดงบัตรโดยสารไทยสมายล์ และหากแสดง Boarding Pass , บัตร WE PRESTIGE หรือบัตรสมาชิก รอยัล ออร์คิด พลัส รับทันทีส่วนลดอาหารและเครื่องดื่ม 25% ที่โรงแรมทั้ง 3 แห่ง ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2565
ขณะเดียวกัน แต่ละโรงแรมจะมีการจัด Seasonal Campaign เพิ่มเติมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วย เช่น ที่โรงแรมไอบิส ภูเก็ต กะตะ เตรียมต้อนรับผู้เข้าพักสู่ช่วง Surf Season ในเดือน มิ.ย.-ก.ค. ด้วยห้องพักราคาพิเศษจำนวนจำกัด กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเล่นเซิฟที่หาดกะตะในช่วงที่ดีที่สุดแห่งปี
“ไอบิส ทั้ง 3 แห่ง มีคุณภาพห้องพักและมาตรฐานการบริการที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ การผนึกกำลังกับสายการบินชั้นนำระดับประเทศไทยอย่างสายการบินไทยสมายล์ จะช่วยเพิ่มพูนสิทธิประโยชน์ให้แก่นักท่องเที่ยว ช่วยให้ง่ายต่อการตัดสินใจเดินทาง การตัดสินใจเข้าพักใน 3 ทำเลและ 3 โรงแรมดังกล่าว บริษัทยังคงเดินหน้าจับมือพันธมิตรชั้นนำระดับประเทศในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้หัวหิน ภูเก็ต และกระบี่ มีอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา” นางสาวจตุพร กล่าว
บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด เป็นผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจหลากหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มธุรกิจโรงแรม พัฒนาโครงการโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ พร้อมทั้งจับมือกับแบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกเข้ามาบริหาร มีโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ และโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา-แหลมฉบัง โรงแรมที่เพิ่งดำเนินการซื้อกิจการเสร็จสิ้น 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรมไอบิส ภูเก็ต กะตะ โรงแรมไอบิส หัวหิน โรงแรมไอบิส สไตล์ กระบี่ อ่าวนาง และมีโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า กลุ่มอาคารมิกซ์ยูส ไปจนถึงกลุ่มธุรกิจอาหาร
สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย
1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 101 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 1/2565) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN), ดิ ออริจิ้น (The Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 154,100 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจพลังงาน ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร
Leave a Reply